June 12, 2025

การบูชายัญเด็ก แห่งอาณาจักรชิมู

0

นักโบราณคดีที่เมืองฮวนชาโก ประเทศเปรู ได้ค้นพบโครงกระดูกของเด็ก 269 คน ลามะ 466 ตัว และผู้ใหญ่ 3 คน ซึ่งทั้งหมดถูกสังเวยในพิธีกรรม ถือว่าเป็นเหตุการณ์สังเวยเด็กจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีบันทึกมา คาดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในยุคของอารยธรรมชิมู ซึ่งมาก่อนจักรวรรดิอินคา นักวิจัยเชื่อว่าอาจเป็นความพยายามในการบูชาเทพเจ้าแห่งภูมิอากาศที่กำลังโกรธเกรี้ยว แต่เหตุผลที่แน่ชัดยังไม่เป็นที่แน่นอน ก่อนหน้านี้ สถิติการสังเวยเด็กมากที่สุดคือ 42 คน ที่พบในเทมโปลมายอร์ เมืองหลวงของแอซเท็กในอดีต

การขุดค้นเริ่มขึ้นในปี 2011 หลังจากเจ้าของร้านพิซซ่าในท้องถิ่นแจ้งกับศาสตราจารย์กาเบรียล ปริเอโต นักโบราณคดี ว่ามีการพบกระดูกมนุษย์ในที่ดินว่างเปล่า เดิมทีปริเอโตคิดว่าเป็นสุสานเก่าที่ถูกลืม แต่พอเริ่มขุดจริงๆ ก็เจอแต่ศพเด็กเต็มไปหมด ซึ่งมีอายุราว 500 ปี ลามะก็ถูกพบฝังเคียงข้างกับเด็กด้วย และทั้งหมดถูกฆ่าอย่างเป็นระบบ การค้นพบนี้ทำให้มีการขุดค้นอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่รู้จักกันในชื่อ ฮวนชาคีโต–ลาส ลามาส ซึ่งยิ่งขุดก็ยิ่งพบศพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ในปี 2018 ไซต์ขุดใกล้ๆ ที่ชื่อปัมปา ลา ครูซ ก็พบศพเพิ่มอีก ทำให้ยอดรวมพุ่งไปถึง 269 เด็ก กับ 466 ลามะ กลายเป็นการสังเวยเด็กครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทางโบราณคดี นักโบราณคดีพยายามหาคำตอบว่าเหตุใดจึงมีพิธีกรรมเช่นนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อราว 550 ปีก่อน ในช่วงที่อารยธรรมชิมูกำลังเสื่อมถอย เด็กๆ ที่ถูกฝังมีอายุระหว่าง 5 ถึง 14 ปี หันหน้าไปทางทะเล ส่วนลามะถูกฝังหันหน้าไปทางภูเขาแอนดีส

เด็กๆ อาจถูกมองว่าเป็นตัวแทนของอนาคตของสังคมชิมู ส่วนลามะนั้นเป็นสัตว์สำคัญในด้านอาหาร การขนส่ง และการผลิตเส้นใย ปริเอโตร่วมกับจอห์น เวราโน นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยทูเลน เป็นผู้นำการขุดค้นที่ยืนยันความจริงอันน่าสะเทือนใจนี้ เด็กหลายคนมีร่องรอยสีแดงทาที่หน้า และศพแสดงให้เห็นถึงการสังเวยที่รุนแรง เช่น การผ่าหน้าอก ซี่โครงเคลื่อน และหัวใจหายไป ลามะก็มีชะตากรรมคล้ายกัน

การสังเวยเด็กเป็นเรื่องที่พบได้น้อยในบันทึกทางประวัติศาสตร์ เพราะโดยทั่วไปสังคมจะลงทุนมากเพื่อให้เด็กเติบโต แต่การสังเวยลามะอายุน้อยๆ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่าทำไมทรัพยากรสำคัญถึงถูกทำลายลง ลามะที่ถูกฆ่าล้วนมีอายุประมาณ 18 เดือน และมีการเลือกสีขนเฉพาะเจาะจงอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังการสังเวยนี้อาจมีความหมายทางจิตวิญญาณลึกซึ้ง บ่งบอกถึงความเชื่อของชาวชิมูเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และโลกหลังความตาย ซึ่งยังคงเป็นปริศนาที่นักวิชาการพยายามหาคำตอบต่อไป

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *