อะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพเฒ่าผู้เกรียงไกรแห่งพม่า

อะแซหวุ่นกี้ หรือ มหาเสนาบดีมหาสีหสุระ (Maha Thiha Thura) เป็นหนึ่งในแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พม่า เกิดราวปี พ.ศ. 2263 ในหุบเขามู ใกล้เมืองอังวะ ท่ามกลางยุคเสื่อมของราชวงศ์ตองอู บ้านเกิดของเขาได้รับผลกระทบจากศึกสงครามอย่างรุนแรง ทั้งจากชาวมณีปุระและการลุกฮือของชาวมอญ ซึ่งถือเป็นฉากหลังสำคัญที่หล่อหลอมเขาให้กลายเป็นนักรบผู้ช่ำชอง
เขาเริ่มมีบทบาทสำคัญในช่วงที่พระเจ้าอลองพญาเริ่มผนวกดินแดนพม่า และก้าวขึ้นมาเป็นขุนศึกคนสำคัญในยุคของพระเจ้ามังระ โดยได้รับความไว้วางใจอย่างสูงในการบัญชาทัพในหลายศึก ทั้งศึกจีน–พม่า ศึกล้านนา หลวงพระบาง มณีปุระ และกรุงศรีอยุธยา
อะแซหวุ่นกี้เป็นผู้บัญชาการหลักในสงครามจีน–พม่า (พ.ศ. 2308–2312) เขาใช้กลยุทธ์ชาญฉลาด สามารถเอาชนะกองทัพราชวงศ์ชิงซึ่งมีกำลังมากกว่าได้ถึง 4 ครั้ง แม้จะขัดพระราชประสงค์โดยเจรจาสงบศึกกับจีน แต่ก็หลีกเลี่ยงความสูญเสียได้อย่างมีเหตุผล ส่งผลให้เขายังคงได้รับความเคารพ

เมื่ออายุ 72 ปี เขายังนำทัพบุกกรุงธนบุรีในศึก พ.ศ. 2318–2319 และสามารถตีพิษณุโลกได้ แต่ไม่ทันถึงชัยชนะสูงสุด ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญคือการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้ามังระ ทำให้เขาต้องรีบถอนทัพกลับอังวะ เพื่อปกป้องพระเจ้าจิงกูจา ราชบุตรของพระเจ้ามังระ ที่เขาอุปถัมภ์ขึ้นครองราชย์
อย่างไรก็ตาม อำนาจและบารมีของอะแซหวุ่นกี้กลับกลายเป็นภัยในสายตาของพระเจ้าจิงกูจา เขาถูกถอดยศและเนรเทศ แม้จะเคยยกทัพกลับมารักษาบัลลังก์ให้ก็ตาม ต่อมาในยุคพระเจ้าหม่องหม่องและพระเจ้าปดุง เขาถูกเรียกตัวกลับมาแต่ไม่กี่วันก็ถูกประหาร ด้วยข้อหาสนับสนุนการกบฏ
ชีวิตของอะแซหวุ่นกี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความเปราะบางของอำนาจ แม้จะเป็นยอดขุนพลผู้มากความสามารถและจงรักภักดี แต่สุดท้ายกลับจบชีวิตด้วยความระแวงจากผู้มีอำนาจ เหลือไว้เพียงตำนานของแม่ทัพเฒ่าผู้กล้าหาญและชาญกลยุทธ์ ผู้ซึ่งแม้แต่ศัตรูก็ยังให้ความนับถือ