อาณาจักรคูช

คุชเป็นอาณาจักรที่อยู่ในแอฟริกาเหนือ ซึ่งปัจจุบันก็คือประเทศซูดาน แถบนี้มีคนอาศัยอยู่ตั้งแต่ราว 8,000 ปีก่อนคริสตกาล แต่กว่าที่อาณาจักรคุชจะเกิดขึ้นจริง ๆ ก็เป็นช่วงเวลาหลังจากนั้นอีกนาน วัฒนธรรมเคอร์มา (Kerma Culture) ซึ่งเกิดขึ้นราว 2,500 ปีก่อนคริสตกาล แสดงให้เห็นว่าชาวอียิปต์เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนในพื้นที่นี้ตั้งแต่ยุคแรก ๆ แล้ว ต่อมา อารยธรรมคุชก็พัฒนาขึ้นมาจากวัฒนธรรมนี้ โดยได้รับอิทธิพลจากอียิปต์อย่างมาก และรุ่งเรืองตั้งแต่ประมาณ 1,069 ปีก่อนคริสตกาลไปจนถึงปี 350
ช่วงที่อียิปต์เริ่มเสื่อมอำนาจลงราว 1,069 ปีก่อนคริสตกาล เมืองนาพาตา (Napata) ในอาณาจักรคุชก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นและกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรใหม่ ในช่วงเวลานี้ กษัตริย์คุชหลายพระองค์ขึ้นเป็นฟาโรห์ของอียิปต์ในราชวงศ์ที่ 25 และเจ้าหญิงคุชเองก็มีบทบาทสำคัญในเมืองธีบส์ (Thebes) กษัตริย์คัชตา (Kashta) ซึ่งครองราชย์ราว 750 ปีก่อนคริสตกาล เป็นกษัตริย์คุชพระองค์แรกที่อ้างสิทธิ์เหนืออียิปต์ และยังแต่งตั้งพระธิดาของพระองค์เป็น “ภรรยาของเทพอามุน” ซึ่งเป็นตำแหน่งศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์อีกด้วย
ราว 590 ปีก่อนคริสตกาล ฟาโรห์พซัมเมติคุสที่ 2 (Psammeticus II) แห่งอียิปต์บุกยึดเมืองนาพาตา ทำให้เมืองหลวงของคุชต้องย้ายไปที่เมโร (Meroe) อาณาจักรคุชยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งราวปี 330 เมื่อถูกอาณาจักรแอกซุม (Aksum) จากเอธิโอเปียบุกโจมตี ซึ่งส่งผลให้เมโรถูกทำลายและอาณาจักรคุชค่อย ๆ เสื่อมลง แม้ว่าก่อนหน้านั้น คุชก็น่าจะเริ่มประสบปัญหาทรัพยากรลดลงอยู่แล้ว

ชื่อ “คุช” เชื่อกันว่าเป็นชื่อที่มาจากชนพื้นเมือง ส่วนคำว่า “นูเบีย” (Nubia) ซึ่งอียิปต์ใช้เรียกพื้นที่นี้ อาจมาจากคำที่เกี่ยวข้องกับทองคำ เพราะคุชเป็นแหล่งทองคำสำคัญในยุคนั้น
เมืองเคอร์มา (Kerma) ซึ่งเกิดขึ้นราว 2,400 ปีก่อนคริสตกาล เคยเป็นศูนย์กลางอำนาจที่ท้าทายอียิปต์และเป็นแหล่งค้าขายสินค้าหรูหราอย่างทองคำ อียิปต์ทำสงครามกับเคอร์มาอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งสามารถพิชิตได้ในช่วง 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนเมืองนาพาตาก็เริ่มมีความสำคัญขึ้นเพราะเป็นศูนย์กลางการค้า และได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมจากอียิปต์อย่างมาก ในช่วงที่อียิปต์อ่อนแอลง กษัตริย์คุชจึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น
นักบวชแห่งวิหารอามุนในนาพาตามีอำนาจสูงมาก และมีอิทธิพลต่อกษัตริย์คุช กษัตริย์คุชพระองค์แรกที่มีชื่อปรากฏในประวัติศาสตร์คืออลารา (Alara) ซึ่งทรงรวมอาณาจักรเป็นปึกแผ่นและสร้างรากฐานทางศาสนาไว้ให้มั่นคง พระองค์สืบทอดอำนาจโดยคัชตา ซึ่งเน้นการค้าขายกับอียิปต์มากขึ้น และขยายอิทธิพลเข้าสู่อียิปต์โดยแทบไม่ต้องใช้กำลังทหาร พระองค์ถูกสืบทอดโดยปีเย (Piye) ซึ่งสามารถพิชิตอียิปต์ตอนล่าง และยอมให้เจ้าผู้ครองเมืองท้องถิ่นปกครองภายใต้อาณาจักรคุช
การขยายอิทธิพลของคุชในอียิปต์นำไปสู่ยุคราชวงศ์ที่ 25 ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์คุช เช่น ชาบากา (Shabaka) และทาฮาร์กา (Taharqa) พระองค์เหล่านี้รักษาวัฒนธรรมอียิปต์ไว้ ในขณะเดียวกันก็ดำรงอิทธิพลของคุช แต่สุดท้ายจักรวรรดิอัสซีเรีย (Assyrian Empire) ก็เข้ามาท้าทายอำนาจของราชวงศ์นี้ จนกษัตริย์คุชพ่ายแพ้ และหลังจากราชวงศ์ที่ 25 ล่มสลาย อียิปต์ก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฟินีเซียน (Phoenicians) ซึ่งแต่งตั้งกษัตริย์หุ่นเชิดขึ้นมาปกครอง
เพื่อความปลอดภัย เมืองหลวงของคุชจึงถูกย้ายไปที่เมโรในช่วง 590 ปีก่อนคริสตกาล ที่นั่น กษัตริย์คุชยังคงนำวัฒนธรรมอียิปต์มาใช้ต่อไป จนกระทั่งยุคของอารคามานีที่ 1 (Arkamani I) พระองค์ทรงปฏิเสธอำนาจของนักบวชและเริ่มเปลี่ยนแปลงแนวทางของคุชให้เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น แทนที่จะยึดตามอียิปต์ ส่งผลให้เกิดประเพณีที่กษัตริย์หญิงหรือ “แคนดาเซส” (Candaces) มีอำนาจปกครองอย่างเป็นอิสระ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 284 ปีก่อนคริสตกาลถึง 314
เมโรกลายเป็นศูนย์กลางของการเกษตรและอุตสาหกรรม ผลิตเครื่องมือเหล็กและธัญพืชเพื่อส่งออก และมีโครงสร้างสังคมที่ซับซ้อน เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านความมั่งคั่งอย่างมาก แต่ภูมิประเทศที่โหดร้ายและสภาพอากาศทำให้กษัตริย์กัมบีซิสที่ 2 (Cambyses II) แห่งเปอร์เซียไม่สามารถบุกยึดได้สำเร็จ วัฒนธรรมของเมโรรุ่งเรือง มีบ้านเรือนขนาดใหญ่ ถนนที่เรียงรายด้วยรูปปั้น และประชากรที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์