โลงศพจอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกฝังใต้ทะเล

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา ถูก ลอบสังหาร ขณะกำลังนั่งขบวนรถของประธานาธิบดีผ่าน Dealey Plaza ใน เมืองดัลลาส รัฐเท็กซัส เคนเนดีอยู่ในรถพร้อมกับภรรยา

หลังจากที่เคนเนดีถูกลอบสังหาร ทีมงานของเขาก็ได้โทรหาสถานที่จัดงานศพของโอ’นีลในดัลลัสทันที ขอให้ส่งโลงศพที่ดีที่สุดไปที่โรงพยาบาล เจ้าของร้านชื่อ เวอร์นอน โอ’นีล ได้เลือกโลงศพทองสัมฤทธิ์บุด้วยผ้าซาตินสีขาวจากบริษัทโลงศพเอลจิน ซึ่งมีราคาสูงถึง $3,995 หรือราวๆ กว่า $36,000 ในปัจจุบัน

หลังจากบรรทุกโลงศพขึ้นรถแล้ว โอ’นีลขับไปที่โรงพยาบาลและตกใจกับสภาพร่างของเคนเนดีที่ยังคงมีเลือดไหลออกจากบาดแผลที่ถูกยิง เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดเปื้อนด้านในของโลง เขากับพยาบาลบางคนช่วยกันห่อร่างด้วยผ้าลินินและปูพลาสติกภายในโลงศพ

ตามคำขอของแจ็กเกอลีน เคนเนดี ร่างของสามีเธอถูกนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลกองทัพเรือเบเธสดา ใกล้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ร่างของเขาถูกขนขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันและนำกลับไปยังเมืองหลวงของประเทศ เมื่อเปิดโลงที่โรงพยาบาล หมอก็พบว่ามาตรการป้องกันที่โอ’นีลทำไว้ไม่เพียงพอ

หลังจากที่ร่างของเคนเนดีถูกฉีดยาดองศพแล้ว โลงศพนั้นก็ไม่เหมาะที่จะใช้ในพิธีเคารพศพที่อาคารรัฐสภาอีกต่อไป จึงต้องเปลี่ยนโลงใหม่ โลงเดิมถูกเก็บไว้โดยสถานที่จัดงานศพที่ทำการฉีดยาดองศพของเคนเนดีนานกว่าหนึ่งปี

หลังจากการฝังศพเคนเนดี รัฐบาลสหรัฐฯ และโอ’นีลเริ่มถกเถียงกันเรื่องค่าใช้จ่ายของโลงศพเดิม รัฐบาลเห็นว่าราคานั้นสูงเกินไป ส่วนโอ’นีลต้องการให้ส่งโลงกลับไปที่ดัลลัส เพราะเขาได้รับข้อเสนอจากผู้ที่สนใจซื้อโลงถึง $100,000 ซึ่งเทียบเท่ากับเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

รัฐบาลไม่ต้องการให้โลงตกไปอยู่ในมือของคนที่สนใจเพราะความอยากรู้อยากเห็น รัฐบาลจึงจ่ายเงินให้โอ’นีลตามที่ตกลงและนำโลงศพไปเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติเป็นเวลาสองปี

ในปี 1999 มีการเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับชะตากรรมของโลงศพหลังจากถูกเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ โรเบิร์ต เคนเนดี อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ในเวลานั้นได้เข้ามาหารัฐบาลเกี่ยวกับการนำโลงศพไปฝังในทะเล เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครนำไปแสวงหาผลประโยชน์จากการเสียชีวิตของพี่ชาย เมื่อได้รับการอนุมัติ งานนี้จึงถูกส่งต่อให้กับกองทัพสหรัฐฯ

ผู้บังคับการเรือดำน้ำได้รับมอบหมายให้คิดวิธีปล่อยและทำให้โลงศพจมอย่างมั่นคง โลงถูกส่งต่อให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเจาะรู 42 รูลงในโลง และใส่ถุงทรายหนัก 80 ปอนด์สามถุงไว้ข้างใน นอกจากนี้ยังติดร่มชูชีพสองตัวเพื่อป้องกันไม่ให้โลงแตกเมื่อกระทบผิวน้ำ

ในเช้าวันที่อากาศเย็นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1966 เครื่องบินลำเลียง C-130 Hercules บินออกจากฐานและมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไปประมาณ 100 ไมล์ พื้นที่นี้ใช้เป็นที่ทิ้งอาวุธเก่าและกระสุนที่ไม่ได้ใช้แล้วของทหาร เพราะอยู่ห่างไกลจากเส้นทางการขนส่งและการเดินเรือทั่วไป และจะไม่ถูกรบกวนจากกิจกรรมทางทะเล

หลังจากลดระดับลงไปที่ความสูง 500 ฟุต ประตูท้ายเครื่องบินถูกเปิดและโลงศพถูกปล่อยลงสู่ผืนน้ำ ตามบันทึกเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1966 จากผู้ช่วยพิเศษของรัฐมนตรีกลาโหม “ร่มชูชีพเปิดออกก่อนจะกระทบกับน้ำไม่นาน และทั้งชุดยังคงสมบูรณ์และจมลงอย่างชัดเจนทันทีหลังจากที่โลงแตะน้ำเบาๆ” เครื่องบินวนรอบบริเวณนั้นประมาณ 10 นาที ก่อนจะบินกลับสู่แผ่นดิน

ชะตากรรมของโลงศพนี้ดูเหมือนจะเหมาะสม เพราะเคนเนดีซึ่งเป็นทหารผ่านศึกของกองทัพเรือ เคยคิดที่จะฝังศพของตัวเองในทะเล