“อโยธยาปุระ” เมืองโบราณที่สาบสูญ

อโยธยาปุระ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “อโยชฺฌปุระ” เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทยมาก่อนศตวรรษที่ 19 ตามพุทธศักราช มีการกล่าวถึงในเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่าง “รัตนพิมพวงศ์” และ “ชินกาลมาลีปกรณ์” ซึ่งเขียนเป็นภาษาบาลี นักวิชาการบางกลุ่มเชื่อว่าอาจตรงกับเมืองสีเทพ ที่เคยเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมทวารวดีระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11 ถึง 16 ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าอโยธยาปุระอาจเป็นเมืองอื่นในภาคเหนือของไทย แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าตั้งอยู่ที่ใด
เมืองนี้น่าจะเริ่มเสื่อมถอยราวกลางพุทธศตวรรษที่ 15 ซึ่งมีจารึกของขอมกล่าวถึงว่ามีการเข้ายึดพื้นที่บริเวณนี้ นอกจากนี้ยังมีบันทึกว่ามีความขัดแย้งระหว่างอโยธยาปุระกับเมืองยะโสธรปุระ ในเรื่องโบราณวัตถุสำคัญอย่างพระแก้วมรกต สุดท้ายอโยธยาปุระก็ถูกทิ้งร้างไปในช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าอาจมาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและโรคระบาดที่ระบาดในพื้นที่ตอนนั้น ประชากรที่เหลืออยู่ก็กระจายไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในพุทธศตวรรษที่ 19

ในช่วงสมัยสุโขทัยและอยุธยา อโยธยาปุระยังถูกเชื่อมโยงกับเมืองอยุธยาอีกด้วย “รัตนพิมพวงศ์” ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์อย่าง “อะทิตาราช” ที่เป็นผู้นำในการนำพระแก้วมรกตมายังอโยธยาปุระ นักวิชาการบางคนยังคาดการณ์ว่า สีเทพในปัจจุบันอาจเป็นร่างเดิมของอโยธยาปุระ ซึ่งในยุครุ่งเรืองเคยอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและเป็นศูนย์กลางการค้า แต่เมื่ออิทธิพลของขอมเพิ่มมากขึ้น และเส้นทางการค้าเปลี่ยนแปลง จุดศูนย์กลางของความรุ่งเรืองของทวารวดีจึงย้ายออกไปจากอโยธยาปุระ จนทำให้เมืองนี้ค่อย ๆ เสื่อมลงและถูกทิ้งร้างในที่สุด
ใน “ชินกาลมาลีปกรณ์” ได้กล่าวถึงอโยธยาปุระว่าเป็นนครใหญ่ที่มีกษัตริย์ทรงอำนาจปกครอง และเป็นศูนย์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์สำคัญในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน