สงครามครูเสดครั้งที่ 1

สงครามครูเสดไม่ได้มีเป้าหมายแค่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ และศัตรูที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อโลกคริสต์ เช่น การรบกับชาวมุสลิมในสเปนและแอฟริกา รวมถึงการส่งกองทัพไปยังแถบทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออก
โดยสรุปแล้ว สงครามครูเสดครั้งแรก (ค.ศ. 1095–1102) ซึ่งถูกประกาศโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 มีเป้าหมายเพื่อยึดนครเยรูซาเล็มและดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากการควบคุมของชาวมุสลิม จุดเริ่มต้นของสงครามมาจากการที่พวกเติร์กเซลจุกรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไบแซนไทน์ จักรพรรดิอเล็กซิออสที่ 1 โคมเนนอสจึงขอความช่วยเหลือจากฝั่งตะวันตก และพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 ก็ตอบรับโดยโน้มน้าวเหล่าอัศวินทั่วยุโรปให้เข้าร่วม โดยให้คำมั่นถึงรางวัลทางจิตวิญญาณ
ในการประชุมที่แกลร์มงต์ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1095 พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 ได้กล่าวเรียกร้องให้อัศวินหยิบอาวุธขึ้นมาปกป้องคริสเตียนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คำปราศรัยของพระองค์จุดกระแสศรัทธาอย่างแรงกล้า มีผู้คนจากทุกชนชั้นเข้าร่วมขบวนการครูเสดด้วยความหวังว่าจะได้ผจญภัย ได้สมบัติ หรือแม้แต่ได้รับความรอดพ้นทางศาสนา

กลุ่มแรกที่ออกเดินทางคือ “ครูเสดของประชาชน” นำโดยปีเตอร์ผู้ถือสันโดษ ซึ่งต้องเจอกับปัญหามากมาย และจบลงด้วยความล้มเหลวเมื่อมาถึงคอนสแตนติโนเปิล เพราะขาดการจัดการที่ดี ส่วนกลุ่มหลักๆ ถัดมา นำโดยผู้นำขุนนางอย่างโบเอมุนด์แห่งทาแรนโต ก็สามารถไปถึงเมืองสำคัญหลายแห่งและชนะศึก แม้จะมีปัญหาเรื่องความแตกแยกและการแย่งชิงอำนาจระหว่างผู้นำก็ตาม
การล้อมเมืองแอนทิโอกในปี 1098 ถือว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเจอกับภาวะอดอยากและความขัดแย้งภายในเองก็ตาม หลังจากยึดเมืองได้แล้ว กองทัพก็เคลื่อนไปยังเยรูซาเล็ม และในที่สุดก็สามารถยึดเมืองได้ในปี 1099 โดยมีก็อดฟรีย์แห่งบูยยองเป็นผู้นำในการโจมตีครั้งสุดท้าย การยึดเมืองจบลงด้วยการสังหารหมู่ชาวมุสลิมและยิวจำนวนมาก ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็แตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูล

หลังจากนั้น แม้ว่าจะมีบางส่วนของกองทัพกลับยุโรป แต่ก็ยังมีกลุ่มที่เดินหน้าต่อไป เกิดปฏิบัติการทางทหารอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ตามมา อย่างไรก็ตาม การควบคุมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในระยะยาวนั้นไม่ง่ายเลย และยังเกิดความตึงเครียดกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ตามมาอีก เพราะพฤติกรรมและท่าทีของพวกครูเสด
โดยรวมแล้ว สงครามครูเสดครั้งแรกทำได้ตามเป้าหมายหลักคือตีเมืองเยรูซาเล็มคืนได้ แต่ก็ตั้งต้นความขัดแย้งระยะยาวระหว่างโลกตะวันตกกับตะวันออก และนำไปสู่สงครามครูเสดอื่นๆ อีกมากมายในอีกหลายร้อยปีต่อมา ซึ่งบางครั้งก็สำเร็จ บางครั้งก็ล้มเหลว ผลสืบเนื่องของมันก็คือการผสมผสานของความศรัทธาทางศาสนากับสงคราม ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคริสต์กับมุสลิม รวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคที่เกี่ยวข้องไปอย่างยาวนาน