June 12, 2025

สังหารหมู่ที่วาชิตา(สังหารหมู่อินเดียน)

0

เหตุการณ์สังหารหมู่ที่วาชิตาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 1868 ซึ่งสมาชิกชนเผ่าเซาเทิร์นไชแอนน์ นำโดยหัวหน้าแบล็กเคทเทิล ถูกสังหารโดยพันโทจอร์จ อาร์มสตรอง คัสเตอร์ และกองทหารม้าที่ 7 แม้ว่าจะได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะได้รับการคุ้มครองก็ตาม แบล็กเคทเทิลพยายามแสวงหาสันติภาพมาตั้งแต่ปี 1851 และได้ลงนามในสนธิสัญญาต่าง ๆ มากมาย ก่อนหน้านี้เขาเคยรอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่ที่แซนด์ครีกในปี 1864 การโจมตีที่วาชิตาส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ผู้หญิง เด็ก และคนชรา ขณะที่กองกำลังของคัสเตอร์เข้าโจมตีหมู่บ้านภายใต้ความเชื่อว่ากำลังปราบปรามชนพื้นเมืองที่เป็นศัตรู

ตอนแรก รายงานเหตุการณ์นำเสนอว่าการบุกของคัสเตอร์เป็นชัยชนะครั้งสำคัญต่อชนพื้นเมืองอเมริกัน แต่ต่อมาประจักษ์พยานหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ และอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสังหารหมู่ชาวพื้นเมืองที่อยู่กันอย่างสงบ คำประกาศเช่น “โชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้” (Manifest Destiny) ถูกใช้เป็นเหตุผลเพื่อขยายอำนาจของชาวอเมริกันในการยึดครองดินแดน ซึ่งมักนำไปสู่การปะทะที่รุนแรง สนธิสัญญาป้อมลารามีปี 1851 เคยรับรองสิทธิในที่ดินของชนพื้นเมืองอเมริกัน แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับละเมิดข้อตกลงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความขัดแย้งต่อเนื่อง

แม้แบล็กเคทเทิลจะพยายามรักษาสันติภาพ แต่สงครามโคโลราโดก็ปะทุขึ้นเพราะสนธิสัญญาที่ล้มเหลว อีกสนธิสัญญาหนึ่งในปี 1868 ดูเหมือนจะให้ความปลอดภัยแก่ชนเผ่าไชแอนน์และอาราปาโฮ ทว่าคำสัญญากลับถูกทำลายลงอีกครั้ง นโยบาย “สงครามเบ็ดเสร็จ” (Total War) ของนายพลฟิลิป เชอริแดน ส่งผลให้เกิดมาตรการรุนแรงต่อชนพื้นเมืองอเมริกัน กองทัพเร่งเพิ่มความกดดัน จนนำไปสู่ปฏิบัติการทางทหารในฤดูหนาวของคัสเตอร์

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1868 แบล็กเคทเทิลพยายามขอลี้ภัยที่ป้อมคอบบ์ แต่ถูกปฏิเสธ หมู่บ้านของเขาตั้งอยู่ที่ปลายสุดของค่ายใหญ่ที่มีชนเผ่าไชแอนน์และอาราปาโฮอาศัยอยู่ ทำให้ตกเป็นเป้าหมายง่าย คัสเตอร์และกองทัพของเขาที่ออกลาดตระเวนเพื่อค้นหาความเคลื่อนไหวของชนพื้นเมืองที่เป็นศัตรู บังเอิญพบหมู่บ้านของแบล็กเคทเทิลเข้า และวางแผนโจมตีทันที แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการเผชิญหน้ากับกองกำลังที่เหนือกว่าก็ตาม

การบุกเริ่มขึ้นในช่วงรุ่งสาง มีเสียงปืนเตือนภัยจากค่ายของแบล็กเคทเทิล แต่คัสเตอร์สั่งบุกทันที ท่ามกลางความวุ่นวาย แบล็กเคทเทิลและภรรยาของเขาถูกยิงเสียชีวิตขณะพยายามหลบหนี มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงพลเรือน แม้ว่าคัสเตอร์จะสั่งให้จับตัวผู้หญิงและเด็กเป็นตัวประกัน แต่หลายคนกลับถูกสังหาร และหมู่บ้านถูกทำลายจนราบ

ภายหลัง เหตุการณ์ถูกบรรยายว่าเป็นชัยชนะทางประวัติศาสตร์ แต่ผู้วิจารณ์หลายคน รวมถึงพันเอกเอ็ดเวิร์ด วินคูป มองว่านี่เป็นการสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ มีรายงานภายหลังที่ตั้งคำถามกับเรื่องเล่าของคัสเตอร์ และชี้ว่าเขาได้ฆ่าหัวหน้าชนพื้นเมืองที่ต้องการสันติภาพ จดหมายปริศนาที่ถูกตีพิมพ์ในเวลาต่อมาประณามการกระทำของคัสเตอร์ จุดกระแสความไม่พอใจในสังคม และเรียกร้องให้มีการสอบสวน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป

เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่าสังหารหมู่โดยหลายฝ่าย และมีการเล่าขานในหลายแง่มุม คัสเตอร์พยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตัวเองด้วยความพยายามทางการทูตหลังเหตุการณ์ แต่การถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน สถานที่เกิดเหตุได้รับการอนุรักษ์เป็น “อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติสมรภูมิวาชิตา” แต่ชนเผ่าไชแอนน์และอาราปาโฮยังคงเรียกเหตุการณ์นี้ว่าสังหารหมู่ และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่ พวกเขายังจัดพิธีรำลึกถึงเหยื่อทุกปีในวันที่ 27 พฤศจิกายน

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *